ตัวอย่างการออกแบบแสงสว่างสำหรับสนามฟุตบอลขนาดกลาง เหมาะสำหรับผู้เล่น 7 คน ใช้ได้กับความกว้างตั้งแต่ 30-40 เมตร และยาว 50-60 เมตร โดยการออกแบบแสงสว่าง แบ่งเป็น 3 ระดับ เพื่อให้เหมาะกับการเล่นในแต่ละประเภท
Lighting Class | Horizontal illuminance | Uniformity | Glare Rating |
Class I | 500 lux | 0.7 | < 55 |
Class II | 200 lux | 0.6 | < 55 |
Class III | 75 lux | 0.5 | <60 |
โดยการออกแบบแสงสว่าง มีการคำนึงถึงองค์ประกอบหลากหลาย ทั้งให้ได้ค่าความสว่างถึงตามมาตรฐานที่กำหนด EN12193 Sport Lighting ดังนี้
ทั้งนี้ การเลือกใช้แสงสว่างในสนามฟุตบอลให้เหมาะสม ควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ระบบแสงสว่างที่เหมาะสมกับสนามฟุตบอล ทั้งยังตรงตามความต้องการของผู้เล่นและผู้เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ควรคำนึงถึงความสวยงาม ความเสถียรของระบบแสงสว่าง การเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ที่มีคุณภาพ เพื่อให้ได้แสงสว่างสำหรับสนามฟุตบอลที่มีคุณภาพและคุ้มค่ากับคุณที่สุด
ที่ความสูงได้ตั้งแต่ 8-13 เมตร และเพื่อให้ได้ค่าความสว่างเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 75 ลักซ์ โคมไฟที่ใช้ต้องมีค่าความสว่างไม่น้อยว่า 48,000 ลูเมน
ตัวอย่างนี้ ติดตั้งโคมไฟเสาละ 1 โคม จำนวน 8 เสา ที่ความสูง 9 เมตร เลือกใช้ โคมไฟ Flood Light รุ่น Series 10A ขนาด 400W โดยใช้ไฟทั้งสนามรวมอยู่ที่ประมาณ 3,200 วัตต์ คิดค่าไฟต่อชั่วโมงอยู่ที่เพียง 13.44 บาทต่อชั่วโมง (คิดค่าไฟที่หน่วยละ 4.2 บาท)
ตัวอย่างการออกแบบแสงสว่างที่เห็นนี้ เราออกแบบโดยคำนึงถึงค่าความสว่างเฉลี่ยต้องให้เป็นไปตามมาตรฐาน Class I คือ ความสว่างเฉลี่ยต้องไม่น้อยกว่า 500 ลักซ์ นอกจากนี้ ค่า Uniformity หรือความสม่ำเสมอของแสง รวมทั้งค่าแสงจ้าตา (Glare Rating) ก็ได้ค่าตามกำหนดทั้งหมด คือ ค่าความสม่ำเสมอของแสงมากกว่า 0.7 และค่าแสงจ้าตาต่ำกว่า 55
จำนวนเสา | ความสูงเสา | จำนวนโคมทั้งสนาม | กำลังไฟฟ้ารวม | ค่าไฟฟ้า |
6 เสา | 11 ~ 15 เมตร | 10 โคม | ≈ 20,000 วัตต์ | ≈ 84 บาท/ชั่วโมง |
โคมละ 2,000 วัตต์ โดยการติดตั้งแนะนำติดตั้งแบบ Driver อยู่ด้านล่าง เพื่อให้ง่ายต่อการซ่อมบำรุง และไม่ทำให้เสาไฟต้องรับน้ำหนักของโคมไฟมากเกินไป
โดยมุมองศาของโคมไฟ LED Flood Light ที่เราเลือกใช้ออกแบบมาเพื่อใช้ในสนามกีฬาโดยเฉพาะ จึงไม่จำเป็นต้องใช้โคมเยอะ แต่สามารถให้แสงสว่างที่สม่ำเสมอกระจายทั่วสนามและแม้จะติดตั้งโคมจำนวนน้อย บำรุงรักษาง่าย
สำหรับการติดตั้งเสาจำนวน 6 ต้น การจะให้แสงที่กระจายทั่วถึงทั้งสนาม ก็ต้องใช้เสาที่มีความสูงมากขึ้น โดยตัวอย่างนี้ สามารถติดตั้งได้ตั้งแต่ความสูง 11 เมตรไปจนถึง 15 เมตร
จะเห็นว่าสนามนี้ใช้ลูเมนต่อโคมอยู่ที่ 250,000 ลูเมน ถ้าคิดเป็นวัตต์จะอยู่ที่ประมาณ 2,000 วัตต์ ดังนั้นจะใช้ไฟทั้งสนามรวมอยู่ที่ประมาณ 20,000 วัตต์ คิดค่าไฟต่อชั่วโมงอยู่ที่เพียง 84 บาทต่อชั่วโมงเท่านั้น (คิดค่าไฟที่หน่วยละ 4.2 บาท) แต่ให้แสงสว่างได้ถึง 500 ลักซ์
จำนวนเสา | ความสูงเสา | จำนวนโคมทั้งสนาม | กำลังไฟฟ้ารวม | ค่าไฟฟ้า |
4 เสา | 13 ~ 17 เมตร | 12 โคม | ≈ 20,800 วัตต์ | ≈ 87.36 บาท/ชั่วโมง |
โคมละ 1,000 วัตต์ และ 2,000 วัตต์ โดยการติดตั้งแนะนำติดตั้งแบบ Driver อยู่ที่ฐานเสา เพื่อง่ายต่อการ maintenance และเสาไฟก็ไม่ต้องรับน้ำหนักของโคมไฟมากเกินไป
โดยมุมองศาของโคมไฟ LED Flood Light ที่เราเลือกใช้ออกแบบมาเพื่อใช้ในสนามกีฬาโดยเฉพาะ จึงไม่จำเป็นต้องใช้โคมเยอะ แต่สามารถให้แสงสว่างที่สม่ำเสมอกระจายทั่วสนามและแม้จะติดตั้งโคมจำนวนน้อย บำรุงรักษาง่าย
เนื่องจากการติดตั้งเสาจำนวน 4 เสา การจะทำให้ได้แสงสว่างที่สม่ำเสมอกระจายทั่วสนาม และไม่เกิดแสงจ้าตานั้น ทำให้จำเป็นต้องออกแบบการติดตั้งให้มีความสูงค่อนข้างมาก เพื่อให้ไม่รบกวนสายตาของผู้เล่นและผู้ชมการแข่งขัน จะเห็นว่าตัวอย่างนี้ติดตั้งเสาสูงถึง 13 เมตร ไปจนถึง 17 เมตร
โดยตัวอย่างนี้ใช้ไฟทั้งสนามรวมอยู่ที่ประมาณ 20,800 วัตต์ คิดค่าไฟต่อชั่วโมงอยู่ที่เพียง 87.36 บาทต่อชั่วโมง (คิดค่าไฟที่หน่วยละ 4.2 บาท) โดยได้ค่าแสงสว่างได้ถึง 500 ลักซ์